ออกมาให้ทัศนะความคิดเห็นตอนนี้ก็ดูจะสายเกินเบอร์ไปจริงๆสำหรับ เรเน่ มูเลนสตีน อดีตโค้ชแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาออกมาให้ความเห็นว่า ในช่วงที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดโดดเด่นภายใต้การคุมทีมของ sir alex ferguson มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเลยทีเดียว แต่หลังจาก sir alex ferguson ลงจากตำแหน่งในฤดูกาล 2013 สโมสรได้ตัดสินใจเลือก เดวิด มอยส์ มาทำทีมแต่ก็เพียงแค่ 10 เดือนเพราะผลงานย่ำแย่ และทำให้หลังจากนั้นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเปลี่ยนกุนซือหลายคนไม่ว่าจะเป็น หลุยส์ ฟาน ฮาล, โจเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ล่าสุด ราล์ฟ รังนิค
ซึ่งเขายังบอกอีกว่ากุนซือทุกคนเป็นกุนซือมีชื่อ และมีฝีไม้ลายมือมีแนวทางการทำทีมที่แตกต่างกันแต่ ไม่ได้เข้าทางกับสโมสรเลย และสงสัยว่าทำไมตอนนั้นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถึงได้มองข้ามไป เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ หรือ เจอร์เก้น คลอป์ป และนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเขาทำงานร่วมกับ sir alex ferguson มา 6 ปีรู้ดีว่าเซอร์อเล็กซ์ มีแนวคิดในการทำทีมแบบไหน มองอนาคตของทีมไว้อย่างไร หวังที่จะให้สโมสรประสบความสำเร็จ แต่ทำไมตอนนั้นสโมสรถึงมองข้ามกุนซือทั้ง 2 ราย
เรเน่ มูเลนสตีน บอกนักข่าวอีกว่าแล้วดูตอนนี้สิ manchester united เป็นแบบไหนแล้วคุณลองมองไปยังแมนเชสเตอร์ซิตี้สิ เพราะตั้งแต่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้าคุมทีมแมนซิตี้ในฤดูกาล 2016 เขาพาแมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษถึง 3 ครั้งมันน่าแปลกใจไหมว่าทำไมไม่เป็น manchester united หรือแม้แต่ เจอร์เก้น คลอป์ปที่คุมลิเวอร์พูลตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาล 2015 กอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ ของหงส์แดงจนสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในรอบ 30 ปี พาทีมเป็นแชมป์ในเวทียุโรป แล้วดูพวกเขาในตอนนี้สิพวกเขาเล่นบอลได้น่าประทับใจ ขนาดไหนทำไม 1 ใน 2 คนนั้นไม่มาอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เขาสองคนเป็นกุนซือที่มีอิทธิพลกับนักเตะมาก เป็นกุนซือที่ใช้จิตวิทยาเก่งปั้นนักเตะเป็น และรู้ว่าใครควรจะเล่นตำแหน่งไหนถ้าไม่เชื่อคุณลองไปถามผู้เล่นในสโมสรลิเวอร์พูลดูสักคน ถามว่าเขารู้ไหมว่าพวกเขาต้องทำอะไรรู้ตัวใช่ไหมว่าจะต้องเล่นเกมแบบไหน หรือไปถามนักเตะ manchester city ด้วยคำถามเดียวกันคุณจะได้คำตอบที่ชัดเจนเลยว่าพวกเขารู้ว่าจะต้องเล่นบอลแบบไหน ในสนามพวกเขาจะทำอย่างไร แต่ถ้ามาถามนักเตะของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ด้วยคำถามเดียวกันคุณคิดหรือว่าจะได้คำตอบแบบมั่นใจเหมือนนักเตะของหงส์แดงและเรือใบสีฟ้า
ซึ่งเขายังกล่าวอีกด้วยว่ามันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่สโมสรของเรามองข้ามกุนซือสองคนนี้แม้ว่าในช่วงนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคุมทีมให้กับบาเยิร์นมิวนิค แต่เขาก็โด่งดังและเป็นกุนซือที่มีฉายาพ่อมดแห่งโลกฟุตบอล ส่วน เจอร์เก้น คลอป์ปทำทีมให้กับโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ และเขาคือศูนย์รวมจิตใจของแฟนบอลและนักเตะที่นั่นเขาทำทีมกลาง ๆ ให้กลายเป็นทีมที่น่ากลัวได้ เขาย้ำอีกว่ามีคำพูดที่ต้องถามว่าเรามองข้ามพวกเขาไปได้อย่างไร และหากมองถึงอนาคตอีก 2-3 ปีต่อจากนี้คุณเห็นอะไร
คุณมองไหมว่า manchester united จะเป็นแบบไหน เรามัวแต่มองหาตัวแทนนักเตะใครจะมาแทนตำแหน่งนั้นใครจะมาแทนตำแหน่งนี้ แต่คุณดูสิ่งที่ คลอป์ปทำกับลิเวอร์พูลสิ เขาวางแผนถึงอนาคตของลิเวอร์พูลแล้วว่าจะเดินไปแบบไหน แม้แต่ manchester city เป็ปก็วางแผนหลังเขาวางมือไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นคือสิ่งที่แตกต่าง และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในอีก 2- 3 ปีข้างหน้าจะเป็นแบบไหน ก็เรียกได้ว่าเปิดใจกันอย่างหมดเปลือกและคงจะคาใจอยู่พอสมควร สำหรับอดีตกุนซือรายนี้ว่าทำไม บอร์ดบริหารถึงมองข้ามทั้งกุนซือที่กำลังผงาดใหญ่โลกฟุตบอลตอนนี้